ไบรอัน รีเมอร์ พาทีม เดนมาร์ก ลงเล่นในปี 2025 เริ่มจากยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย สองเกมเหย้า-เยือนที่แพ้ โปรตุเกส สกอร์รวม 3-5 และเกมอุ่นเครื่องเดือนมิถุนายน ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 2-1, ชนะ ลิทัวเนีย 5-0
สภาพทีมชุดนี้ไม่มี คริสเตียน นอร์การ์ด, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม, วิคเตอร์ เยนเซ่น, อเล็กซานเดอร์ บาห์ ที่บาดเจ็บ แถมปีกตัวเก่ง กุสตาฟ อีซัคเซ่น ก็ถอนตัวด้วยเหตุผลส่วนตัว
ขณะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางตัวเก๋าที่ยิง 3 ประตูกับทีมชาติในปี 2025 ก็ไม่มีชื่อเพราะยังไร้สังกัด
สตีฟ คล้าร์ก เฮดโค้ช สกอตแลนด์ ตั้งเป้าพาทีมเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 หลังจากพาทีมไปเล่นยูโร 2020 และยูโร 2024 ติดต่อกัน
สภาพทีมสมบูรณ์ทีเดียว คล้าร์ก มีตัวหลักอยู่ในทีมพร้อมหน้า โดยได้ อารอน ฮิคกี้ย์ กลับคืนทีมอีกครั้งหลังบาดเจ็บพักไปนาน จุดแข็งอยู่ที่แดนกลางที่มี 4 มิดฟิลด์จากเซเรียอา นำโดย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
(4-3-3) : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ราสมุส คริสเตนเซ่น, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โยอาคิม แมห์เล่ – อันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, มอร์เทน ฮุลมันด์, มิคเคล ดัมส์การ์ด – มิก้า บีเร็ธ, คาสเปอร์ โดลเบิร์ก
(5-4-1) : แอนกัส กันน์ – แอนโธนี่ รอลส์ตัน, สกอตต์ แม็คเคนน่า, จอห์น ซุททาร์, คีแรน เทียร์นี่ย์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – จอห์น แม็คกินน์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ลูอิส เฟอร์กูสัน, ไรอัน คริสตี้ – เช อดัมส์
: พาร์เคน สเตเดี้ยม